หางกวาง

ชื่อสมุนไพร

หางกวาง

ชื่ออื่นๆ

หางกวางผู้ ช้างน้าว (อุบลราชธานี) กาปิโต (ตราด) ท้องปลิง (ภาคใต้) ช้างโน้ม (ปราจีนบุรี) ยูลง (มลายู นราธิวาส)

ชื่อวิทยาศาสตร์

Gomphia serrata (Gaertn.) Kanis

ชื่อพ้อง

Campylospermum abbreviatum Tiegh., C. beccarianum (Bartel) Tiegh., C. borneense (Bartel) Tiegh., C. cumingii Tiegh., C. kingii Tiegh., C. leschenaultii Tiegh., C. malabaricum (DC.) Tiegh., C. nodosum Tiegh., C. perakense Tiegh., C. plicatum Tiegh., C. retinerve Tiegh., C. rheedii Tiegh. , C. serratum (Gaertn.) Bittrich & M.C.E.Amaral, C. strictum Tiegh., C. sumatranum (Jack) Tiegh., C. thwaitesii Tiegh., C. vahlianum Tiegh., C. walkeri Tiegh., C. wallichianum Tiegh., C. zeylanicum (Lam.) Tiegh., Euthemis elegantissima Wall., Gomphia angustifolia Vahl, G. ceylanica Spreng., G. malabarica DC., G. microphylla Ridl., G. oblongifolia Ridl., G. sumatrana Jack, G. zeylanica (Lam.) DC., Meesia serrata Gaertn., Ochna angustifolia (Vahl) Kuntze, O. zeylanica Lam., Ouratea serrata (Gaertn.) N. Robson, Walkera serrata

ชื่อวงศ์

Ochnaceae

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
             ไม้พุ่มขนาดเล็ก สูง 1-3 เมตร เปลือกต้นสีน้ำตาลอมเทา ค่อนข้างเรียบ แตกกิ่งก้านต่ำ ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ใบรูปไข่ค่อนข้างเรียวยาว หรือรูปไข่กลับแกมรูปขอบขนาน กว้าง 2-6 เซนติเมตร ยาว 6-20 เซนติเมตร ปลายใบเป็นติ่งแหลม โคนใบมนหรือสอบแคบ ขอบใบเรียบแต่เป็นหยักคลื่น เนื้อใบเนียนเกลี้ยงและหนาเป็นมัน ก้านใบยาว 2-6 มิลลิเมตร ดอกออกเป็นช่อที่ซอกใบและปลายกิ่ง ช่อดอกแบบช่อกระจุกแยกแขนงสั้น ๆ ดอกสีเหลือง ร่วงง่าย กลีบดอกมี 5 กลีบ รูปขอบขนาน ยาว 4.5-8 มิลลิเมตร ปลายมน กลม หรือตัด กลีบเลี้ยง 5 กลีบ รูปรี รูปไข่ หรือรูปไข่กลับ ยาว 4-7 มิลลิเมตร ติดทน สีเขียวออกเหลือง เกสรเพศผู้ 10 อัน ไร้ก้านหรือมีก้านสั้น ๆ ยาวไม่เกิน 0.5 มิลลิเมตร อับเรณูเรียวยาว ยาว 2.5-6 มิลลิเมตร ปลายมีรูเปิด 2 รู ฐานดอกนูนกว้างสูง 0.7-1 มิลลิเมตร ขยายในผลได้ถึงประมาณ 5 มิลลิเมตร คาร์เพลยาว 0.7-1 มิลลิเมตร ก้านเกสรเพศเมียยาว 3-5 มิลลิเมตร ขยายในผลยาวได้ประมาณ 7 มิลลิเมตร ก้านดอกยาว 5-8 มิลลิเมตร ผลสดรูปไข่กลับ ติดบนฐานดอก มีกลีบเลี้ยงสีแดงติดคงทน พับงอกลับ ผลกว้าง 4-5 มิลลิเมตร ยาว 8-10 มิลลิเมตร ผลอ่อนมีสีเขียวเทา พอสุกเป็นสีเทาอมน้ำเงินหรือออกม่วงดำ มีเมล็ดเดียว ออกดอกราวเดือนสิงหาคมถึงกันยายน ติดผลราวเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน พบตามป่าดิบแล้งและชายป่าดิบชื้น จนถึงระดับความสูงประมาณ 1,200 เมตร

 

ลักษณะวิสัย

 

ลำต้น

 

ใบ

 

ยอดอ่อน

 

ดอก

 

ดอก

 

ดอก และ ผล

 

ดอก

 

ดอก และ ผล

 

ผล และ ดอก

 

ผลอ่อน

 

ผลอ่อน และผลสุก

 

ผลสุก


สรรพคุณ    
              ตำรายาไทย ทั้งต้น เข้าตำรับยารักษาโรคเบาหวาน ราก นำมาต้มน้ำดื่ม แก้ผิดสำแดง (กินอาหารแสลง ทำให้เกิดโรค) แก้เบาหวาน แก่น ต้มน้ำดื่ม แก้ปัสสาวะขัด ลำต้น ต้มน้ำดื่มแก้ปวดเมื่อย  ใบแก่ ใช้ห่อขี้ไต้

 

ตัวอย่างพรรณไม้แห้ง  : phar.ubu.ac.th/herb-thaiherbarium/


Copyright © 2010 phargarden.com All rights reserved.

Appsthailand Hosting